มีข้อสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ทำไมเดี๋ยวนี้ประโคมข่าวกันจัง
ว่าโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ง่าย ลองดูว่าคุณเข้าข่ายไหม
แล้วพอลองดูมันก็ตรงทุกข้อ ไม่ก็ตรงเป็นส่วนมาก
แล้วอย่างนี้ คนที่มีอารมณ์เศร้าซึมเฉยๆ จะไม่คิดมากเหรอ
โรคซึมเศร้ามันเป็นกันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ในอนาคต เราคงต้องมีจิตแพทย์ส่วนตัวกันเลยทีเดียว
ที่ว่าสงสัย อาจปนความเคลือบแคลงใจ หรืออคติอะไรด้วย
ถ้าเพียงทำให้คนที่มีภาวะซึมเศร้าคิดว่า ตัวเองต้องไปพบจิตแพทย์
เพื่อให้ยารักษาอาการดังกล่าวขายดี
เราอาจจะคิดในแง่ลบเกินไป แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
อาจจะไม่ใช่เรื่องขายยา แต่รู้สึกว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบกล
นิสัยคนไทยเป็นพวกตื่นข่าวง่ายด้วย เราก็ด้วยล่ะ
จะบอกว่าหวังดี ออกมาเตือนให้ระวังจะเป็นโรคนี้เหรอ
หรือว่ามันจะเป็นการโฆษณาการรักษาในทางหนึ่ง
ความคิดสงสัยถือว่าเป็นกิเลสในทางพุทธ
แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ถือเป็นการเริ่มต้นศึกษาเรื่องใดใด
โรคซึมเศร้ากับภาวะซึมเศร้ามันต่างกันยังไง?
รู้แต่ว่าโรคซึมเศร้าอาจจะเศร้านานกว่าสามเดือนขึ้น(มั้ง)
และบางทีจะเศร้าซึมอย่างไม่มีสาเหตุ อยู่ดีๆก็เป็น
แต่ภาวะซึมเศร้าระยะสั้นกว่า และมีสาเหตุทางใจชัด
ส่วนเรื่องอื่นๆก็ไม่รู้ แขนงต่างๆของโรคนี้ก็ไม่รู้
ทำไมความรู้มันถึงได้หายากอย่างนี้
จะต้องไปเรียนแพทย์ก่อนหรือเปล่าเนี่ย
บางทีก็คิดนะว่าเป็นเพราะที่ยึดเหนี่ยวทางใจไม่มี
คนสมัยก่อน เค้ามีศรัทธาในศาสนาอย่างสุดใจ
แต่เราไม่สามารถทำได้แบบนั้นไง
จะให้บูชาวิทยาศาสตร์ มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
พุทธเป็นศาสนาที่น่าเลื่อมใสที่สุด แต่ก็ยังไม่โดน
อาจเป็นเพราะเราไม่ชอบอยู่ภายใต้อะไรสักอย่าง
ไม่รู้เพราะอะไร แต่รู้สึกกบฎ รู้สึกต่อต้านผู้มีอำนาจ
คงเป็นกลไกการป้องกันตัวอย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทำไม
อาจเป็นความกลัว หรือความฝังใจอะไรบางอย่าง
ถ้ามองในแง่ศาสนา อาจเป็นผลกรรมเก่าก็เป็นได้
ศาสนาดีอย่างหนึ่ง ต้องที่ให้คำตอบได้ทันที
เพียงแต่คนช่างสงสัยจะรู้สึกหงุดหงิดบ้าง
อยากให้เคลียร์ให้กระจ่างกว่านี้
แต่เพราะศาสนาเป็นศาสนาก็เลยไม่ทำ
กิจของศาสนาคือให้ความสบายใจ ไม่ใช่ความรู้
สำหรับเราศาสนาจึงตอบโจทย์ได้ไม่หมด
ต้องหันหาวิทยาศาสตร์ที่เน้นหาความรู้บ้าง
เพียงแต่ความรู้ที่กระจัดกระจายไปทั่วนั้น
จำเป็นต้องมีคำถามตั้งต้นที่เหมาะสมชัดเจน
จึงกลับมาที่ศาสนาที่นำเราไปสู่คำถามที่ถูกทิศ
เพราะงั้นจึงจำเป็นทั้งศาสนาและวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ไม่ได้มองข้ามจิตใจหรือเรื่องนามธรรม
เพียงแต่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตอบโจทย์นั้นได้ดีพอ
ปัญหาคือคนมองวิทยาศาสตร์เป็นบุคลาธิษฐานมากกว่า
วิทยาศาสตร์ไม่ใช่คน แต่เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งเท่านั้น
การแก้ปัญหาในชีวิตที่มีหลายมิติ ไม่สามารถแก้ได้ด้วยสิ่งเดียว
เหมือนอนิเมะที่สร้างฮาเร็มขึ้นมาตอบโจทย์นี้ -- เกี่ยว
(ค่อยต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น