ถ้าถามว่าเรานับถือใคร เวลามีปัญหาปรึกษาใคร
เราอาจจะตอบว่า ลุงกูเกิลได้
เพราะเวลามีอะไรนิดหน่อย ก็เสิร์ชหาไว้ก่อน
พอดี เมื่อกี้หอบ ปกติจะเป็นกลางคืน/เช้า
แต่ที่หอบนี่ ลองเดาว่าเพราะตื่นเต้น
เลยพิมคำว่า ตื่นเต้น หอบ ในกูเกิล
มาเลยครับมีน้องหมาใครเวลาตื่นเต้นแล้วหอบ
ผมนี่กลายเป็นหมาไปเลยครับ
คำนี้กลับมาอีกแหละ จำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่ง
พิมคำว่าผมนี่ จนเผลอใช้คำว่า ผมอยู่ตลอดเวลา
ก่อนนอนคิดอะไร เรียกแทนตัวเองผมจนลืมเพศเลย
ดีที่ตื่นเช้ามากลับมาใช้ 'เรา' เหมือนเดิม
น่าสงสัยนะว่า ทำไมต้องเรา ทำไมไม่ฉันหรือกู
ผมนี่หอบเป็นหมาแล้วก็เลยต้องพ่นเวนโทลินครับ
ผมเลยเลิกหา เลิกคบพี่บีเกิ้ล เอ้ย พี่กูเกิ้ล
พอดีนึกได้ว่าเคยเรียนอนาโตมี่มาแล้ว
เวลาตื่นเต้น จะหายใจเร็ว บางทีคงตื่นเต้น
บวกกับเคลื่อนไหวร่างกาย เดินเร็ว
เลยหายใจเร็วมากจนเหมือนจะหายใจไม่ทัน
มันก็เลยหอบ เป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจก็งี้
สงสัยขนแมวอุดหลอดลม
จะเลิกเลี้ยงแมวก็เหมือนฆ่าตัวตาย
แค่แมวตายยังซึมร้องไห้ปานจะขาดใจ
แมวมันดีต่อหัวใจ มีอยู่ใกล้ๆแล้วฟิน
มีทางแก้คือ ฝึกหายใจ
ปอดเราไม่น่าจะมีปัญหา
เวลาไปหาหมอ เค้าจะบอกว่าเราหายใจลึก
เพราะเรียนสมาธิ เรียนโยคะด้วย ก็เลยพอได้
เวลาหอบน้อยๆ หายใจด้วยท้อง ก็หาย
แต่พอมาก มันเหนื่อย พ่นยาลูกเดียว
ยามันก็ช่วยแก้แค่ปลายเหตุนะ
แถมยังพ่วงอาการมือสั่นมาอีก
ถ้าทำฝึกหายใจจริงจัง ก็เคลียร์
ได้สมาธิอีกต่างหาก ใจสงบ เป็นสุขอีก
เผื่อๆได้บุญ เอาไปเผื่อแผ่แบ่งปัน
ฝึกหายใจ มันก็ทำสมาธิแหละ
แต่ไม่ค่อยชอบเรียกมันดูแก่ๆเชยๆ
ต้องคิดชื่อใหม่ให้มันให้ดูน่าทำ
เรื่องมากเนอะ เรียกฝึกหายใจก็ง่ายดี
แต่เดี๋ยวจะพาเอาไปคิดกันว่า ทีผ่านมาหายใจไม่เป็น
ที่ฝึกไม่ใช่การหายใจ แต่เป็นสติตามดูรับรู้ลมหายใจตั้งหาก
กลไกการหายใจมันเป็นกึ่งอัตโนมัติ ควบคุมได้แค่ทางอ้อม
แต่ถ้าไม่ไปยุ่งกับมัน มันก็ยังหายใจเป็นปกติไปเอง
ควบคุมทางอ้อม ได้แก่ สภาวะอารมณ์ การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ
เช่น ตอนวิ่งก็จะหายใจเร็วกว่าตอนเดิน ตื่นเต้นก็เร็วกว่าปกติ
ตอนง่วงนอน หายใจช้ากว่าปกติ
นอกจากนี้คิดว่าการหายใจสัมพันธ์กับคลื่นสมองด้วย
ตอนตื่นเต้น หายใจเร็ว คลื่นสมองก็ถี่มากด้วย
ต่างกับตอนง่วง หายใจช้า คลื่นจะกว้างกว่า ยักน้อยกว่า
คลื่นสมองระดับกลางๆ เหมาะกับการเรียนรู้มาก
แต่ระดับมีสมาธิ เข้าฌานแบบโยคี คลื่นจะนิ่งเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหว
อยากลองมีประสบการณ์แบบนั้น แต่เท่าที่ทำได้ แค่ไหนแค่นั้น
แค่นี้ จริงๆก็พอใจ เพียงแต่ฝึกไม่ค่อยบ่อย เพราะติดเล่น
ตอนฝึกสมาธิตามดูลมหายใจ มีพยายามคุมลมบ้างนิดหน่อย
แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็จะเกร็งน้อยลง จนถึงกับรู้สึกสบาย
ในทางวิทยาศาสตร์ เป็นเพราะหายใจช้า
เป็นการหายใจด้วยหน้าท้องตามธรรมชาติด้วย
มันก็น่าทึ่งอยู่ เพราะปกติเวลานั่งเราจะหายใจด้วยอกมากกว่า
ด้วยสรีระบางก็มักจะใช้ช่วงบนหายใจมากกว่า
ด้วยนิสัยก็จะตื่นเต้นง่ายกว่าตามสรีระผอมบาง
แต่พอหายใจด้วยท้องแบบไม่เกร็งได้โดยไม่ได้นอน
มันก็วิเศษแล้ว เพียงแต่ต้องทนและใช้เวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น