เราอยากเป็นนักเขียนมาตั้งแต่ตอนมอสาม
เพราะงั้นตอนมอสี่ถึงจะย้ายไปเรียนศิลป์คำนวณ
ทั้งที่จะเรียนวิทย์-คณิตก็ไหว สอบติดอันดับดีด้วย
แต่สาเหตุที่ย้ายเพราะเพื่อนสนิทไปเรียนที่อื่น
และเราก็เข็ดกับเด็กเก่งที่ไม่เอาสังคม
เราเป็นพวกขี้เหงา ชอบอยู่กับเพื่อนมาก
ตอนสอบเข้ามหาลัยก็ไม่หวังว่าจะติดหรอก
เลือกไปแบบงั้นๆ ออกอยากเรียนไปหมดทุกอย่าง
ถ้าติดก็เรียน ถ้าไม่ก็เล็งมหาลัยที่เดียวกับพี่ไว้แล้ว
ภาควิชาที่ติด ถึงเป็นอันดับสี่ แต่ก็แปลกได้ใจเรา
ตอนเรียนฟังๆก็ชอบดี แปลกดี และได้คิดมากขึ้น
การเรียนมหาลัยทำให้เราขยันหาความรู้มากขึ้น
ถึงแม้เพื่อนใรกลุ่มสนิทจะไม่ใช่เด็กเนิร์ด
แต่สังเกตว่า ทุกคนจะเก่งเว่อเก่งแบบแปลกๆ
คือเป็นกลุ่มตัวประหลาด เที่ยวเก่งเรียนเก่ง
เราแอบชื่นชมเพื่อนตัวเองปนกับความอิจฉานิดๆ
เราชอบคนพูดเก่ง ไม่ใช่พูดมากนะ แต่พูดอย่างฉลาดอะ
พวกเพื่อนเราผู้หญิงก็จริง แต่แมนมาก กว่าผู้ชายอีก
เราไม่ได้เลสนะ พวกเพื่อนเราก็ไม่ ส่วนมากมีแฟนแล้ว
มีคนหนึ่งเป็นเลส ออกแนวจิตๆหน่อย แต่นิสัยดี คบเป็นเพื่อนกัน
เพื่อนก็คือเพื่อน เราไม่ชอบให้กลายเป็นอยากอื่น
ยกเว้นแต่เราจะเกิดใจตรงกันขึ้นมา..ยังไงน่ะ
ชักเขียนไม่ตรงประเด็นแรกๆและ
เรามีความฝันจะเป็นนักเขียน แต่เราไม่ค่อยชอบอ่านนิยาย
กำ คือเป็นพวกมาตรฐานสูงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
นิยายเด็กๆแบบรักไร้สติ ขอแบบว่าพอทีเถอะ
นิยายสืบสวนฝรั่งรายละเอียดจะเยอะไปไหน
ตัวหนังสือแม่มล้มทับตายก่อนอ่านจบ
หานิยายอ่านยาก หายากแล้ว อ่านให้จบก็ยากไม่แพ้
ถ้าเรื่องไม่ดึงดูด ไม่น่าสนใจ เรามักไม่ทนอ่าน
ทั้งที่ตอนซื้อ ตอนยืมคิดว่า น่าสนใจแท้ๆ
เราถนัดอ่านแบบข่าวสั้น บทความเนื้อเรื่องจบในหน้าสองหน้า
เวลาไปห้องสมุด เรามักแบกหนังสือมาตั้งไว้
แล้วเลือกอ่านตอนที่สนใจ จากเล่มนั้น มาเล่มนี้
คืออ่านไม่หมด อ่านแต่ที่สนใจ อยากจะรู้จริงๆ
ส่วนมากไม่ใช่นิยาย แต่เป็นหนังสือความรู้ทั่วไป
เราชอบสะสมความรู้ แม้เป็นเรื่องดาดดื่น แต่ถ้าอยากรู้ต้องรู้
เราชอบค้นหาความจริง บางครั้งหลังอ่านเกิดคำถามอะไร
ก็ตั้งโจทย์ แล้วพยายามถอดคำตอบให้ได้
เหมือนทำโจทย์เลข แต่เนื้อหาเป็นพวกเรื่องนามธรรม
คล้ายปรัชญา หรือจะปรัชญาแบบตามใจฉันก็ว่าได้
เราชอบเรียนปรัชญา แต่ไม่ค่อยสนใจความคิดคนตาย
หมายถึงเราไม่ค่อยยึดติดกับความคิดคนอื่น
แค่รับฟังแล้วก็ปล่อยผ่านไป รู้สึกว่า มันไร้สาระ
แต่ความคิดตัวเองนี่ พระเจ้าชัดๆ คือเป็นคนยังงี้อะนะ
เราชอบแนวคิดทางศาสนามากกว่าปรัชญานะ
มันลึกซึ้ง นุ่มนวล เราว่า มันสวยงามนะ หลายศาสนา
เรานับถือได้ทุกศาสนา เราชื่นชมวิธีการของศาสนา
เราชอบแนวคิดที่เอามาใช้ได้ไง ไม่ชอบอะไรที่ดูแอ็บสแต้กเกิน
แต่ถึงเราจะแสดงความสนใจกับศาสนาอยู่ ในครู่หนึ่ง
หลังจากที่กลับมาอยู่กับตัวเอง เราก็จะกลายเป็นพระเจ้าอีกครั้ง
นอกจากนี้ เราชอบอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเองด้วย ตอนเรียนอยู่ปีสอง
ตอนปีหนึ่ง เราเข้าห้องสมุดบ้าง แต่ปีสอง เราแทบจะอาศัยอยู่ในห้องสมุด
เราหลงรักในความรู้ เราชอบค้นคว้า เราชอบอ่านไปเรื่อย ไม่จำเพาะเรื่องใดแนวใด
ปีหนึ่ง เราใช้อิสรภาพไปกับการเที่ยวเล่น เราไม่เสียดายเท่าไหร่ ถึงจะเสเพลไปหน่อย
แต่เอามาใช้อ้างอิงในนิยายได้หมดล่ะ ประสบการณ์เมาครั้งแรก ประสบการณ์หนีเที่ยว
เสียแต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านความรัก ประสบการณ์ทางเพศก็ไม่มี แต่ก็ช่างมัน
เราเขียนแนวใสใสเอาก็ได้ เราไม่ค่อยชอบนิยายขายเซ็กส์อยู่แล้วด้วย สะอิดสะเอียน
ตอนปีสอง เหมือนจะกลับตัวกลับใจ หรือสำนึกผิดก็ป่านนั้น เอาแต่เรียน และอ่านหนังสือ
ตอนปีสามเทอมสองเกรดก็ดิ่งฮวบ เพราะลงเรียนหลายวิชาเกินไป และมีปัญหากับบางวิชา
วิชาโทเป็นอะไรที่ภูมิใจ เพราะได้เอทุกตัว ผิดกับวิชาเอกที่ดำดิ่งลงเรื่อยๆ
ถึงเราจะไม่ค่อยถูกกับวิชาเอก แต่เราก็ภูมิใจ และไม่เสียใจที่ได้เรียนวิชานี้
รู้สึกมีอาวุธติดมือขึ้นมาบ้าง ไม่สิ อาวุธติดความคิดเข้ามาบ้าง
วิชาเอกแปลกๆนี้ ทำให้เราหัดอ่านหนังสือและบทความยากๆได้
เพราะเนื้อหามันต้องตีความหลายร้อยตลบจนแอบตีลังกาคิด เอ้ย ไม่ใช่
ออกจะปวดหัว ถ้าไม่สนใจจริง คงอดทนอยู่กับมันไม่ได้แน่ๆ
สำหรับเรา เป็นพวกความสนใจสั้น ถ้าหมดความอดทนก็ทิ้งไปดื้อๆ
ตอนหาหัวข้อ ก็เปลี่ยนไปสิบล้านหัวข้อ เพราะคิดถึงแต่วิธีล้มล้าง
อันนี้ก็ไม่ใช่ อันนั้นก็ยังไม่โดน สรุปเมิงจะหาหัวข้อที่สนใจได้ไหม
นอกจากถูกบังคับถึงจะทำได้ แต่ก็ไม่มีใครบังคับนะ
มีแอบๆเสนอกึ่งบังคับให้ แต่พออาจารย์ไม่ค่อยดู
เราเลยพาลออกนอกเรื่องไปถึงใจกลางทะเลสาบเดดซี
บวกกับการที่เราตื่นคน เวลาพูดนำเสนอ มันเลยกลายเป็นเดดแอร์
ที่เราคงจะจดจำไปจนวันตาย ทุกคนนั่งกินข้าวกันอยู่ก็ดีแล้ว
มาฟังกูทำไมวะ จะพาลเอาอาหารเสียรสชาติหมดนะ
เออๆ ไปรับลูกเถอะ อย่ามาถามอะไรที่คนอื่นเค้าเพิ่งถามไปได้ไหม
ทำเป็นไม่พูด แต่แผ่รังสีอำมหิตออกมาตั้งแต่ก้าวแรก
ขอโทษเถอะ คุณจะเข้ามาประดับห้องกันหรือไง
แต่ห้องมันก็ดูเหมือนภาพเขียนของมุนด์ไปโดยปริยายนะ
รู้สึกสบายใจแบบแปลกๆ ที่ได้เขียนอย่างหยาบคาย
ว่าแต่ลืมประเด็นแรกไปเลยนะ กูจะเขียนอะไรของกู
เดี๋ยวนี้ชักหยาบคายขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนไปมั้ง
ยาวสัส ขอตัดจบแบบดื้อๆละกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น