วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ในชีวิตนี้จะมีโอกาสเจอคนตอแหลมากหน่อยแค่ไหนกันนะ
ถ้าตอแหลปกป้องตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ตอแหลทำร้ายคนอื่น น่ากลัว
เราอ่านบอร์ด  อ่านเว็บเยอะ ยังดูไม่ออกเลย ใครพูดจริง ใครตอแหล
ตรรกะตอแหลบางคนเนียนมาก  จับได้ยาก  ยิ่งไม่เห็นหน้าด้วย ยิ่งเดาไม่ถูก
แต่คงจะมีบ้างแหละที่ตอแหลเรียกร้องความสนใจ  มาโพสอะไรแบบดึงดูดๆ
ทำตัวเป็นคนมีปัญหา  เรียกร้องความสนใจ  เราไม่ชอบแบบนั้น เพราะงั้นถึงมีปัญหาก็ไม่บอกใคร
เอาไว้ให้เป็นปัญหากลุ่มก่อน ของใครก็รับผิดชอบเอาเอง  ไม่ชอบพึ่งลมปากใคร
แต่ก็นะ  บางทีถ้าใครชม ก็เหลิงได้ง่าย  ใครพูดจาดีๆ เราก็จะเชื่อมากกว่า
เพราะงั้นถ้าจะโดนตอแหลใส่ คงไม่รู้มั้ง  แต่ถ้าเป็นเรื่องคบหาดูใจ
จะออกแนวไม่ค่อยไว้ใจคนที่เปิดตัวโต้งๆ แต่กับคนที่ตีเนียนมานี่ ดูไม่ออกจริงๆ
เดี๋ยวนี้ แค่การจะเชื่อใจใครสักคน  มันต้องใช้เวลา ต้องอะไรเยอะแยะเลยนะ
แต่บางที  อาจไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น  ใช้กฎดีดึงดูดดีเอาก็ได้
ให้จินตนาการว่า คลื่นความคิดของคนแผ่ออกมาได้
คลื่นนั้นตรงข้ามกับรูปแบบคลื่นแม่เหล็ก เพราะไม่ผลักขั้วเดียวกัน
สังเกตได้อย่างหนึ่ง คนที่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรก  มักจะมีอะไรต่างกันมากๆ
ถ้าช่วงไหนรู้สึกแช่มชื่น มักจะเห็นคนทำดี หรือไม่ก็มีคนช่วยเหลือเรา
อย่างคนที่เราชอบ ก็มักมีอะไรที่เหมือนเรา แต่หลายคนก็เหมือนคนละมุมไป
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวใครจะมาทำร้ายเราเลย  กลัวเราจะไปทำร้ายใครก่อน
ถ้าไม่มีกรรมเวรต่อกัน  เค้าจะมาทำอะไรคุณ  ความกลัวอาจเป็นสันดานติดมาจากชาติก่อน
หากคุณทำดีแล้วยังกลัวคนอื่น  ยอมรับเถอะว่า ตัวคุณนะน่ากลัวกว่าเค้าเป็นไหนๆ
พูดถึงตัวเองด้วยนะ  เพราะเราก็มีความกลัวต่อคนบางรูปแบบ  บางสถานการณ์
ถึงจะกลัว  แต่ไม่ใช่เบ่งตัวให้ใหญ่  ต้องยอมรับความกลัวให้ได้ก่อน
ความกลัวมันมายังไง  มันจะไปไหนต่อ  กลัวแล้วจะยังไง  เค้าจะฆ่าเราเหรอ
สำหรับเรา เหมือนจะกลัวตัวเองทำผิดนะ กลัวทำอะไรไม่ดีแล้วขายหน้ามากกว่า
แบบนี้ ยิ่งต้อง ทำดีให้มากขึ้น  จะได้ไม่รู้สึกว่า เราจะทำผิด แล้วก็ปล่อยวาง
ถ้ามองตัวเองเป็นยังไง ก็มีโอกาสที่จะได้เจอคนแบนั้นมากขึ้นไปอีก
ถ้ามองตัวเองตอแหล ก็จะมีโอกาสได้เจอคนตอแหลนั่นแหละ
ตัวตนของเราแยกจากสังคมไม่ได้หรอก  เพราะสิ่งที่หลอมเราขึ้นมาคือ สังคม
ตัวตนจึงเท่ากันสังคมที่อยู่  ภาพลักษณ์ของตัวตนเท่ากับภาพสังคมที่เราเห็น
คนเรามีแนวโน้มที่จะคิดเข้าข้างตัวเองสูง  ทุกอย่างจะเชื่อมเข้ากับตัวเองก่อน
ภาพที่เรามองเห็นจึงเป็นภาพของวัตถุที่ใส่ความเป็นตัวเราลงไปด้วย
เช่น มองเห็นบันได เราก็จะรู้สึกไม่ชอบ เพราะตอนเด็กเคยตกบันได
ภาพของบันได จึงมีไอชั่วร้ายลอยออกมา แต่ความจริงบันไดก็คือบันได
หรือพอเห็นคนเอามือโบกข้างหลังกางเกง ก็คิดว่า เค้าตด เพราะเราเคยทำ
อะไรประมาณนั้น  ภาพศิลปะจึงเป็นภาพสะท้อนจิตใจของคนออกมาด้วย
แต่ก็นะ  ทุกการกระทำล้วนสะท้อนอะไรออกมาได้หมด
มีเหตุผลอยู่ทุกเบื้องหลังการกระทำ  ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันไหม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น