เราเข้าใจว่าคงทำเวรกรรมกันไว้
แต่ว่านะ ถ้าทำให้เราหลงไปมากกว่านี้
อยากได้บุญเรอะ เดี๋ยวอุทิศไปให้
...
มานั่งวิเคราะห์บุคลิกตัวเองต่อดีกว่า
ชอบหมกหมุ่นกับตัวเองมากกว่า
มานั่งคิดเรื่องคนอื่นที่เหมือนอยู่คนละโลก
แน่ละ เราอยู่ในโลกของเราคนเดียวซะด้วย
ถ้าวิเคราะห์จากการแบ่งเวลานะ
เรามีบุคลิกกล้ามั่นใจ เวลาอยู่ในห้องน้ำ
คือร้องเพลงเสียงดังไง มั่นในน้ำเสียงตัวเอง
ถ้าออกมาข้างนอก ก็จะไม่ร้องเพลง
มีแค่ร้องให้แมวฟัง ตอนฝนตกหนักๆ
บุคลิกดังกล่าวแตกต่างจากบุคลิกโฮสท์
บุคลิกที่โรงเรียนก็จะแตกต่างไปตามระดับความเชื่อใจ
เพื่อนที่พูดแต่เรื่องเรียนก็วางมาดเป็นคนขยันตั้งใจเรียน
มาดนั้น ดูรับผิดชอบ และเอาใจใส่งานกลุ่มดี
ดีกว่างานเดี่ยวมาก ประมาณสิบเท่า เฉพาะความเอาใจใส่นะ
กับเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเที่ยวเล่น ตามแต่การรับรู้ตัวตนของคนนั้นๆ
คนที่ดูชิวๆ ก็ชิวใส่ บ้าใส่บ้าง ตามแต่โอกาส กวนเป็นปกติ
กลุ่มเพื่อนผู้หญิงแต่ออกห้าวๆกันทั้งกลุ่ม ที่สำคัญก็แปลกๆทั้งนั้น
จะว่าไปก็หาความธรรมดาไม่ค่อยได้ในชั้นเรียนวิชาเอกแบบนี้
แต่ในความแปลกกลับไม่มีใครที่ดึงดูดทางเพศได้ดี
ถึงจะมีหน้าตาดีอยู่บ้าง แต่ให้ความรู็สึกเหมือนเพื่อนอย่างเดียว
กับเพื่อนผู้ชาย เวลาไปเที่ยว ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจเรื่องเพศ
เพราะคนเรียนด้านนี้ ไม่ค่อยถือสาเรื่องนั้นมั้ง ดูยังไงก็เหมือนๆกัน
เคยมีหวั่นไหว มั้งนะ ตอนช่วงแรกๆที่ไม่คุ้นเคย
แต่พอปรับคลื่นจูนเข้าหากัน ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ชอบความเป็นเพื่อนมากกว่า
มีเพื่อนมันสนุกกว่า เราคิดนะ เราเป็นพวกติดสนุกไง
ยิ่งได้อิสระ ยิ่งเอาไปใช้หาความสนุก ไม่มานั่งเพ้อฝันหรอก อยากลุยลูกเดียว
ตอนนี้ก็รู็สึกเสียดาย ถ้าคว้าเพื่อนมาเป็นแฟนสักคน ป่านนี้คงมีชีวิตธรรมดาๆไปแล้ว
แต่ก็นะ คงไม่สนุกเท่าตอนนี้ การอยู่คนเดียวแบบนี้ โคตรดีเลย ไม่ได้ประชดนะ
ถึงจะมีเหงา แอบคิดถึงเพื่อน อยากออกไปสนุก แต่อยู่บ้าน แล้วนั่งเพ้อ มันก็สนุกดี
หนักแล้วไง ถึงขั้นหาความสนุกได้จากในคุก ในกะลา คนแบบนี้มัน..
กำลังมาเนียชัดๆ รู้สึกคึก นอนไม่หลับ อ่านนิยายยาก ดูหนังจิต
บุคลิกแบบมาเนีย เราก็เลยตั้งชื่อว่า มาเนีย มันผสมกับการหาความสนุก
มีเรื่องของความรักเล้กๆน้อยๆให้พอสูบฉีด แต่ไม่ได้เอาจริงเอาจัง
กลุ้มใจกับถ้อยคำที่พิมไปอย่างรวดเร็ว ช่างเถอะ
บุคลิกยอมตาม เราจะมีบุคลิกนี้ เวลาอยู่กับคนอื่น เพื่อน ครู
ในตอนแรกๆ ที่บ้านก็ด้วย เป็นเหมือนบุคลิกโฮสท์
ทุกคนจะรู้ว่าเรา ปฏิเสธใครไม่เป็น เราพูดน้อย ดูเรียบร้อย แต่ไม่จริง
บุคลิกยอมตาม เราเรียกว่า ET ที่มาจาก Empty ดูว่างเปล่า ไม่มีอะไร
ไม่มีตัวตนที่แน่ชัด เปลี่ยนแปลงง่าย ปรวนแปร คาดเดายาก
คำว่า Empty เอามาจากคำทายนิสัยเจ้าของเฟสจากครูคนหนึ่ง
ที่เราเคารพ และได้แรงบันดาลใจจากถ้อยคำ Keep Learning
มันก็ดูเราดีนะ ถึงจะไม่เข้าใจ และออกงงๆ กับคำกล่าวที่ว่า
Empty Dead (ไม่รู้ตัวไหน หรือ Death หรือเปล่า?) แต่ก็เห็นภาพชัด
กับคำพูดที่ว่า ตีความภาษาที่สองไม่เก่งนักหรอกเรา
จะว่า ความตายที่ว่างเปล่า หรือ ตายไปอย่างว่างเปล่า
หรือว่างมากจนเหมือนกับไม่มีตัวตน หรือตายจากไป อะไรอย่างนั้น
อันหลังก็ดูเข้าเค้านะ เพราะเฟสเราเหมือนตายจริงๆ เพื่อนบางคนถึงกับลบ
ลบตัวตนของเราออกด้วยละมั้ง เพราะเราไม่ทัก ไม่โพส ไม่ไลค์ ไม่ทำไรแม่ง
ตัวตนของเรา..ดูเลือนลางจริงๆ เวลาอยู่ในกลุ่มคนมากมาย
เราไม่ชอบการแสดงออก เราไม่ชอบความวุ่นวาย
ดูเหมือนจะมีอีกบุคลิกที่คล้ายๆกับ ET แต่ดูมืดมนน้อยกว่า
คือล่องลอย แบบว่า ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดูเพ้อๆ ดูไม่สนใจสิ่งรอบตัว
เราตั้งชื่อว่า ฟยู ออกเสียงลมอย่างเดียวนะ ได้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
บุคลิกที่อยู่กับตัวเองคนเดียว เช่น ในห้องสมุด หน้าคอม
มีอยู่หนึ่งที่เราค่อนข้างพอใจ เป็นเหมือนบุคลิกในอุดมคติ
มีความเชื่อมั่น มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
บุคลิกดังกล่าวจะหาหนังสือมีสาระ และอ่านเนื้อหาความรู้ยากๆได้
เราตั้งชื่อว่า รีช พยายามไคว้คว้า ไปให้ถึงจุดๆนั้น ความสำเร็จ ความฝัน
แต่บุคลิคนี้สูญเสีย และบกพร่องได้ง่าย เพราะตั้งความหวังสูง
และพอผิดหวัง ก็เฟลมาก จนสับเป็นบุคลิกเงียบเก็บตัว
ความผิดหวังที่รุนแรง ทำให้บุคลิกนี้ ไม่มั่นใจ มาๆไปๆ
เพราะไม่กล้าจะคาดหวังอะไรอีก ไม่อยากตั้งความหวัง
หลังจากการผิดหวังรุนแรง ก็เกิดบุคลิกที่ไม่คาดฝันขึ้น
เราตั้งชื่อว่า ชาโคล มันเร่าร้อนและดุเดือดจนเราแทบคลั่งตาย
ชาโคลเหมือนมาแทนรีชในช่วงหนึ่ง หลังจากซึมเศร้าอย่างหนัก
ช่วงดังกล่าวก็คือ สตรอม มีพายุในใจ น้ำขังนองน้ำตา
เพราะร้องไห้จนแสบตา ถึงได้ยอมไปพบจิตแพทย์
แต่ก็เลิกหาเอาดื้อๆ แต่วิธีเลิกไม่ดื้อนะ ค่อนข้างแยบยล
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวันหนึ่งลาออกจากงาน เพราะพยายามฆ่าตัวตาย
แต่บุคลิกคนดีก็มาหยุดไว้ได้ บุคลิกที่อยากตายดูเหมือนจะเป็นบุคลิกหลัก
ผสมกับบุคลิกสีเทาที่เราตั้งชื่อหรูๆว่ามรณัม เพราะคิดถึงแต่ความตาย วิธีตาย
หลังจากนั้น ก็แต่งหน้า ปั้นหน้าสดใสไปหาหมอ อวดอ้างว่า ตัวเองออกกำลังกาย
หมอบอกว่า สีหน้าสดใสดีแล้วนิ เราปักธงทันที ชนะแล้วเว้ย หลอกหมอสำเร็จ
แล้วก็เดินทำหน้าตาเรียบๆออกมาเก๋ๆ แบบไม่หวนกลับมา (แต่เสือกไปที่อื่นแทน)
บุคลิกที่พิมนี้ ทำไมช่างหยาบคายนัก (ภาษาเริ่มเปลี่ยนไปอีก สงสัยซันเซ็ตจะมา)
เราว่า ตัวเองคงจะเป็นพวกราคะจริต หลงใหลความงามสมบูรณ์แบบ
ทั้งความงามและความสมบูรณ์แบบ ต่างก็เป็นโจทย์ยากในตัวอยู่แล้ว
เราจึงไม่ใช่คนง่ายๆ เหมือนภายนอก ที่ดูเหมือนคนง่ายๆ อะไรก็ได้
แต่ก็ครุ่นคิดถึงวิธีการจัดวางสิ่งต่างๆให้ลงตัวที่สุด ดีที่สุด เริ่ดที่สุด
ทั้งความสัมพันธ์ ทั้งเพื่อน ทั้งการเรียน ทั้งสิ่งรอบตัว
เราพยายามควบคุมสิ่งต่างๆอย่างเงียบเชียบ จนรู้สึกเหมือนเป็นพระเจ้า
ไม่ใช่ฮารุฮิ ไม่ใช่มิโอะ เราแยบยล ไม่ทำอะไรโลดโผน เหมือนตัวร้าย
เราชอบรู้สึกถึงสายตาของคนอื่นที่มองเราว่าเราเงียบแต่ร้าย
ซึ่งมันก็จริง แต่เราก็ดีด้วย เพราะเราไม่ได้สูญเสียจิตสำนึกไป
เพียงแต่จิตใต้สำนึกของเรามันอยู่ต่ำมาก ทำให้สำนึกอะไรหลายๆอย่าง
สำนึกทั้งดีทั้งชั่ว ไม่ได้มองโลกด้านเดียว หรือแค่สองด้าน
เพราะเรามีบุคลิกที่หลากหลาย และเรียนรู้เรื่องที่หลากหลาย
ถึงจะดูยาก จัดประเภทไม่ได้ว่าเป็นคนแบบไหน แต่ก็เรียบง่ายที่สุดล่ะ
เราดูสีเทา ดูธรรมดานะเอาจริง ตรงไปตรงมา แค่มีเล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อย
แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตราย สิ่งที่อันตรายอาจเป็นบางบุคลิก ในเวลาที่ไม่สมควร
เช่น เวลาที่อยู่กับเด็กซน ถ้าชาโคลออกมา มันก็จะตบ หรือตีอย่างไม่มีปี่มี่ขลุ่ย
แต่เป็นชาโคลนิ่งๆนะ เหมือนขุ่นอยู่ในใจ แต่แสดงออกมาน้อย (มั้งนะ)
มีบางทีที่บุคลิกเฉื่อยชาเบื่อหน่ายออกมา ตอนที่อยู่ในกลุ่มคนวุ่นวาย
ถึงจะเป็นครอบครัว ญาติ หรือเพื่อนก็มีโอกาสนั้น
ช่วงหลังมานี้ ได้มีโอกาสสอนเด็ก และคลุกคลีกับเด็กมาก
จนเริ่มจะมีบุคลิกผู้ปกครองโผล่ออกมา
โดยปกติ เราจะไม่ใช่พวกที่ชอบพูดจาหวานนุ่ม หรือซื้อของเล่นให้เด็ก
แต่จะพูดห้วนๆ ด้วยภาษาเดียวกัน เหมือนเข้าใจเด็ก
เราก็มีบุคลิกเด็กอยู่ในตัวงั้นสิ เราอยากเล่นอยู่ตลอดเลยนี่หน่า
แต่เราก็เลือกเพื่อนนะ ไม่ค่อยชอบเด็กเอาแต่ใจ วางอำนาจ แต่ก็เจออยู่ดี
พอยอมตามมากๆ ดูเหมือนจะยิ่งแย่ เพราะเราไม่มีบุคลิกวางอำนาจในตัวเลย ในตอนนั้น
จนชาโคลกับบุคลิกผู้ปกครองเกิดขึ้นก็..ก็ยังยอมตามอยู่ดีกับคนๆเดิมที่บงการเรา
แต่วิธีการบงการอย่างแยบยลของเรา เหมือนจะได้ผลขึ้น
รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง เด็กที่เคยข่มเรา ก็พยายามเอาใจเรามากขึ้น
เพราะเราใช้ความดีเข้าข่มไง ถือคติ ปกครองด้วยการไม่ปกครอง
ทำตัวต้อยต่ำติดดิน กลับสูงส่ง อะไรๆทำนองนั้น
ใช้ความถ่อมตัวกับคนที่ชอบวางอำนาจ ไม่คิดว่าจะได้ผล
ความจริงก็ไม่ได้วางแผนหรือตั้งใจอะไร มันแค่บังเอิญจริงๆนะ
บุคลิควางอำนาจเลยไม่จำเป็นต้องมี สำหรับเรา
แต่ก็มีบุคลิกนิ่งจนเหมือนหยิ่ง ที่จะว่าไปก็คล้ายการวางอำนาจนะ
...
เยอะไปแล้ว มาสรุปก่อนดีกว่า จะได้อ่านง่ายๆ
มีบุคลิก ET เป็นโฮสท์ ประเภทยอมตาม และไร้ตัวตน
บุคลิกหลงตัวเอง เวลาร้องเพลง อาบน้ำ ยังไม่มีชื่อ
บุคลิกเรียนรู้แบบรีช ดิ้นรนเพื่อไปถึงเป้าหมาย
บุคลิกสีเทาแบบมรณัม ที่คิดถึงแต่ความตาย
บุคลิกเด็กที่ชอบเล่น มีจินตนาการ ล่องลอย ชื่อ ฟยู
บุคลิกข่มตัวเอง ท้อแท้ ร้องไห้ง่าย ยังไม่มีชื่อ
บุคลิกเดือดดาล มีอารมณ์โกรธเป็นตัวประทุ ชาโคล
บุคลิกเบื่อหน่าย เฉื่อยชา ง่วงนอน ยังไม่มีชื่อ
(เพิ่งคิดสด หลายบุคลิก ไม่ได้เอาตามที่คิดไว้ตอนแรก)
บุคลิกข่มตัวเอง เพิ่งนึกออกจริงๆ แต่ใช่มาก
แยกออกจากบุคลิกเบื่อหน่ายด้วย
เหมือนเด็กตัวเล็กอ่อนแอ ร้องไห้ง่าย
เกือบจะออกมาเท่าบุคลิกหลักในตอนเด็กๆ
เหมือนเป็นบุคลิกที่ไม่โต แต่ก็หายๆไปแล้วนะ ตอนนี้
ชื่อ ฝุ่นละกัน ดูเล็กดี เราแพ้อีกต่างหาก
บุคลิกฝุ่นปนบุคลิก ET ก็ดูสงบสเงี่ยมเรียบร้อยดี
บุคลิกหลงตัวเองนี่ ไม่ใช่นารุ ที่มาจากนาลซิสต์นะ
(นั้นมันโกสท์ฮันท์แล้วล่ะ อนิเมะที่ได้แรงบันดาลใจแต่งนิยาย)
ผู้ชายแบบนารุ ก็เว่อไปมั้ง ถ้าเป็นหญิง ก็นางพญา แต่เท่ดี ชอบๆ
เราค่อนข้างโชคดีที่มีบุคลิกเยอะ เรอะ เวลาเขียนนิยาย สลับบทบาทง่าย
มองบทแต่ละตัวออก แบบชนิดว่า อินไปถึงความคิดในใจได้ เว่อไปป่ะ นารุๆจริง
สงสัยต้องชื่อ นารุแล้วล่ะ มันติดอะ ยิ่งพอดูเรื่องนั้น อะไรๆก็นารุๆๆๆๆ
บุคลิกเบื่อหน่าย มันก็หนักๆ รู้สึกง่วงง่าวหาวนอน อยากหลบหนีนิดๆ
ชื่อ เคป ที่มาจาก Cave ถ้ำ ก็ไม่เลว ตอนแรกจะเอสเคป หนี แต่นึกได้ว่า มีเคป ถ้ำอีก
ปล. ตอนนี้มี ET นารุ รีช ณัม ฟยู ฝุ่น ชาโคล และเคป รวม 8 บุคลิกนะ ไปนอนและ โดนบ่น
ต้องนอนก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวชาโคลมาล่ะแย่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น